สิวที่คาง เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยและสร้างความกังวลใจให้กับหลาย ๆ คน เป็นสิวที่คางอาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ฮอร์โมนไปจนถึงสุขอนามัยส่วนบุคคล บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุของสิวขึ้นที่คางและวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณมีผิวที่เรียบเนียนและมั่นใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำในการรับมือกับ ปัญหาสิวแพ้แมสก์ควรรับมืออย่างไรอีกด้วย
- สิวที่คางเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยและสร้างความกังวลใจ เกิดจากปัจจัยภายในและพฤติกรรม เช่น ฮอร์โมน การใช้มือสัมผัสคาง และการสวมหน้ากากอนามัย
- สิวที่คางมีหลายชนิด เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวไม่มีหัว และสิวหัวช้าง อาการรุนแรงแตกต่างกันไป อาจเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน
- การรักษาสิวที่คางด้วยตนเองทำได้โดย ทำความสะอาดผิวหน้า เลือกสกินแคร์และกันแดดที่เหมาะกับผิวสิว หลีกเลี่ยงสารก่อการแพ้ รักษาความสะอาดของสิ่งที่สัมผัสใบหน้า
- การรักษาที่คลินิกมี 3 วิธี คือ ใช้ยาอนุพันธ์ของวิตามินเอ เลเซอร์ IPL เพื่อควบคุมความมัน และ Monopolar RF เพื่อทำลายต่อมไขมัน
- ป้องกันสิวที่คางโดยหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสคาง ล้างหน้าและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว รักษาความสะอาดของสิ่งของที่สัมผัสใบหน้า
สารบัญ
สาเหตุสิวขึ้นที่คาง เกิดจากอะไรบ้าง?
การเกิดสิวที่คางซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ทำให้เกิดความรำคาญใจและส่งผลต่อความมั่นใจไม่ใช่น้อย ๆ ซึ่งสิวที่คางจะเป็น ๆ หาย ๆ ด้วย 2 สาเหตุหลัก คือ
1. ปัจจัยภายใน
คางเป็นบริเวณ T-zone ของใบหน้าที่มีจำนวนต่อมไขมันมากกว่าบริเวณอื่น ๆ ผิวส่วนนี้จึงมีความมันและรูขุมขนกว้าง หรือแม้แต่ฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันในชั้นผิวหนังก็เป็นสาเหตุของสิวที่คางได้เช่นกัน
2. พฤติกรรม
มักจะใช้มือไปสัมผัสโดยไม่รู้ตัว อย่างการนั่งเท้าคาง ลูบคางขณะใช้ความคิด เอาหน้าซบหมอน หรือแม้แต่การแกะสิว กดสิว โดยไม่ได้ทำความสะอาดมือให้ดีเสียก่อน รวมทั้งการใส่หน้ากากอนามัยนาน ๆ การแพ้หน้ากากอนามัย ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวบริเวณคางได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้คือต้นตอของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่สะสมบริเวณคางจนทำให้เกิดการอุดตันและสิว
นอกจากนี้ สิวที่คางอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในวัยรุ่นหรือประจำเดือน การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม การสัมผัสผิวด้วยมือที่ไม่สะอาด หรือสภาวะสุขภาพก็ส่งผลต่อผิวหนังเช่นกัน ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมตามลักษณะของสิวแต่ละชนิด
สิวที่คางมีกี่ชนิด?
สิวอุดตัน (Comidonal Acne)
เกิดจากน้ำมันและเซบัม (เซลล์ผิวหนังที่ตาย) อุดตันที่รูขุมขนที่ยังไม่มีการอักเสบเกิดขึ้น ในช่วงต้นหัวสิวจะเป็นสีขาว (Whiteheads) แต่เมื่อโดนอากาศนาน ๆ ก็จะเกิดปฏิกิริยากับอากาศและหัวสิวเปลี่ยนเป็นสีดำ (Blackheads)สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)
สิวอักเสบเกิดขึ้นเมื่อสิวอุดตันมีการติดเชื้อ โดยเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการอักเสบมากที่สุดคือเชื้อแบคทีเรียตระกูล P. acnes ทำให้รู้สึกระบมที่สิวอักเสบและบวมแดงได้สิวไม่มีหัว (Pustules)
สิวที่ไม่มีหัวหนองจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มีไตแข็ง ๆ ขนาดเล็กอยู่ภายในสิวหัวช้าง (Nodulocystic Acne)
สิวหัวช้างเป็นรูปแบบของสิวที่อักเสบลึกลงในชั้นผิวหนัง จะมีรอยแดงและอาการบวมอย่างมาก มีขนาดใหญ่และอาจทำให้เกิดรอยแผลหรือรอยดำในระยะยาวได้ตำแหน่งสิวบริเวณคาง
สิวมักเกิดในบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่มาก เช่น บริเวณที-โซน (T-Zone) บนใบหน้า ซึ่งรวมถึงสิวที่คาง สิวกรอบหน้า และสันกราม การเป็นสิวที่คางเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ต่อมไขมันทำงานหนัก ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือการอุดตันของเครื่องสำอาง เป็นต้น
สิวขึ้นที่คางซ้ำ ๆ ? บ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง?
การเป็นสิวที่คางซ้ำ ๆ เป็นอีกสัญญาณทางสุขภาพที่บ่งบอกว่าคุณอาจจะมีต่อมไขมันที่ทำงานมากเกินไป หรือในกรณีของคุณผู้หญิง ถ้ามีสิวที่คางมากเป็นพิเศษช่วงที่มีรอบประจำเดือนอาจจะเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน แพทย์จะประเมินต้นตอของปัญหาและจ่ายยาเพื่อปรับฮอร์โมนที่ใช้สำหรับควบคุมระดับฮอร์โมนในกลุ่ม Androgen ในการรักษา หรือในหลาย ๆ กรณีที่มีอาการปวดท้องรุนแรงในช่วงที่มีประจำเดือน อาจจะมีสาเหตุมาจากภาวะมีถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ Polycystic Ovarian Syndrome (PCOS) จึงควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี
วิธีรักษาสิวขึ้นที่คาง ด้วยตัวเอง
แม้ว่าสิวขึ้นที่คางจะเป็นปัญหาที่พบบ่อย แต่ก็มีวิธีในการรักษาที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง มาดูกันว่ามีวิธีการดูแลและ รักษาสิว ที่คางอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผิวหน้าของเรากลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง
1. การทำความสะอาดผิวหน้า
การล้างหน้าอย่างถูกวิธีเป็นพื้นฐานสำคัญ ควรทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกด้วยคลีนซิ่งวอเตอร์ก่อน จากนั้นล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งอุดตัน โดยเลือกสูตรที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป เพื่อช่วยลดการเกิดสิวที่คาง
2. เลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวสิว
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับคนเป็นสิวที่คางควรช่วยลดการอักเสบ ควบคุมความมัน และฟื้นบำรุงผิวที่อ่อนแอจากสิว เซรั่มที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติและกรดผลไม้ เช่น AHA BHA PHA จะช่วยลดการเกิดสิวขึ้นคาง ป้องกันการอุดตัน และลดเลือนรอยดำรอยแดงได้ดี
3. เลือกกันแดดสูตรควบคุมความมัน
แสงแดดกระตุ้นให้เกิดสิวและรอยดำจากสิวมากขึ้น จึงต้องป้องกันด้วยครีมกันแดดเนื้อบางเบา ไม่อุดตัน และสามารถควบคุมความมันได้ดี เลือกสูตรที่ปราศจากสารก่อการระคายเคืองเพื่อลดการกระตุ้นการเกิดสิวที่คางเพิ่ม
4. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อการแพ้ต่อผิว
ผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสผิวหน้า ทั้งเครื่องสำอาง แชมพู ยาสีฟัน ควรเป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำมัน รวมถึงสารที่มีแนวโน้มก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคือง ซึ่งอาจทำให้เป็นสิวที่คางมากขึ้นได้
5. ดูแลความสะอาดของสิ่งที่สัมผัสใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น มือถือ หมอน ผ้าปูที่นอน เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่คางได้ ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของแบคทีเรียสู่ผิวหน้า
6. รักษาความสะอาดหน้ากากอนามัยให้ถูกสุขอนามัย
การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานานทำให้เกิดสภาวะอับชื้น ซึ่งส่งเสริมให้เกิดสิวขึ้นที่คางได้ง่าย จึงควรหาเวลาพักหน้ากากเมื่อไม่จำเป็น เปลี่ยนหน้ากากอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรนำมาใช้ซ้ำ เพื่อป้องกันการเกิดสิวที่คาง
3 วิธีรักษาสิวที่คาง ของ The One Clinic
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องปัญหาสิวที่คางจนรู้สึกไม่มั่นใจ หรือมีอาการปวดระบมจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางและรับการรักษาที่ The One Clinic ได้เลยนะคะ ที่นี่มีการรักษาทั้งหมด 3 วิธี ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ตรงกับต้นตอของปัญหาและลักษณะผิวของคุณมากที่สุด
- การใช้ยาอนุพันธุ์ของวิตามินเอ ประเภท Acnotin, Adapalene, Tazarotene เป็นต้น และในกรณีที่เป็นสิวฮอร์โมน สามารถใช้ยาคุมกำเนิดประเภท Estradiol เพื่อลดความมันของใบหน้า แต่ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงสูง ควรรับประทานและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
- Intense Pulsed Light (IPL) รักษาด้วยเลเซอร์ ใช้แสงเข้มข้นเพื่อลดการทำงานของต่อมไขมันชั่วคราว วิธีนี้จะช่วยลดความมันที่บริเวณคาง ซึ่งสามารถลดการอุดตันที่ทำให้เกิดสิวได้ (แนะนำคอร์สรักษาสิวด้วย Acne Clear Laser)
- Monopolar Radio Frequency เป็นการรักษาโดยใช้คลื่นพลังงานวิทยุความถี่ 6 Mhz เข้าไปทำลายต่อมไขมันโดยตรง เหมาะสำหรับการรักษาสิวเรื้อรังที่เกิดในที่ซ้ำ ๆ โดยไม่ต้องใช้ยาอนุพันธุ์ของวิตามินเอ หรือ ยาคุมกำเนิด สำหรับ Monopolar Radio Frequency เป็นการรักษาสิวแบบถาวรจากต้นเหตุที่เราขอแนะนำ คอร์สรักษาสิวด้วย Acgen Acne Away
การป้องกันสิวขึ้นคางด้วยตัวเอง
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการนั่งเท้าคาง ลูบคาง จับคางเล่น หรือเอาคางวางไว้บนโต๊ะทำงาน
- ควรล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช่น คนผิวมันควรเลือกใช้เป็นโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน หรือคนผิวแห้งควรเลือกใช้เป็นเจลเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
- เลือกใช้สกินแคร์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะสมและตรงกับสภาพผิว การปล่อยให้หน้าแห้งเกินไปก็เป็นสาเหตุให้ต่อมไขมันผลิตไขมันมากขึ้นกว่าปกติได้เช่นกัน หรือคนหน้ามันก็ควรหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันระหว่างวันเพื่อลดการอุดตัน
- แนะนำให้ใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ระบุว่า Non-Comidogenic ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคืองผิวหน้า
- ดูแลความสะอาดอุปกรณ์และสิ่งของที่สัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า หน้ากากอนามัย มือถือ ปลอกหมอน รวมทั้งเส้นผมที่ปรกหน้า
หากคุณกำลังกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาสิวที่คาง สิวผด สิวอักเสบ รวมทั้งสารพัดปัญหาผิว มาปรึกษาคุณหมอหนึ่ง แพทย์เฉพาะทางที่ The One Clinic คลินิกรักษาสิวห้วยขวางได้เลย เพราะคุณหมอหนึ่งจะช่วยรักษาสิวเดิม ป้องกันสิวใหม่ และเคล็ดลับบำรุงผิวอีกมากมาย
FAQ
Q : สิวที่คางบ่งบอกอะไร?
A :สิวที่คางอาจบ่งบอกถึงปัญหาระบบย่อยอาหารหรือฮอร์โมนไม่สมดุล โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีประจำเดือนไม่ปกติ หากเป็นสิวที่คางเรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาที่เหมาะสม
Q : ทำไมถึงเป็นสิวที่คาง?
A :สิวขึ้นที่คางเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ฮอร์โมนไม่สมดุล ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ เครื่องสำอางอุดตัน แบคทีเรีย และไขมันส่วนเกิน ดังนั้น หากเป็นสิวที่คางซ้ำ ๆ ควรหาสาเหตุเพื่อรักษาให้ตรงจุดและป้องกันการเกิดสิวขึ้นคางในระยะยาว