อาการ “ผมร่วงเป็นหย่อม” อันตรายไหม? พร้อมแนะนำวิธีการรักษา

ผมร่วงเป็นหย่อม หรือ Alopecia Areata คือ ภาวะผมร่วงผิดปกติที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายโจมตีเซลล์ที่รากผม ส่งผลให้ผมร่วงมากขึ้นผิดปกติเป็นหย่อมหรือเป็นกระจุก ผมร่วงเป็นหย่อมแม้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงแต่ก็มักสร้างความกังวลใจให้ใครหลายๆ คน โดยเฉพาะหากผมเกิดผมร่วงกินเป็นวงกว้างบริเวณหนังศีรษะ ทำให้ความมั่นใจในชีวิตประจำวันลดลง และในบางรายอาจมีขนร่วงตามส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย 

ซึ่งโรคนี้เกิดขึ้นได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย ในวันนี้เรามีดูกันว่าจะมีวิธีการรักษาเพื่อหยุดการหลุดร่วงและกระตุ้นให้เส้นผมงอกขึ้นใหม่ได้อย่างไรบ้าง?

สรุป อาการ "ผมร่วงเป็นหย่อม" อันตรายไหม เกิดจากอะไรรักษาอย่างไรให้หายขาด
  • ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีรากผม ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดของหย่อมผมร่วงจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน อาจพบในส่วนต่าง ๆ ของศีรษะหรือบริเวณอื่น ๆ บนร่างกาย
  • มักพบได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยรุ่น สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรม, ความเครียด และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม
  • วิธีการรักษา ได้แก่ การใช้ยาทา, ยาฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่รากผม, การรักษาด้วย PRP (Platelet-Rich Plasma) ซึ่งเป็นการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นจากเลือดตัวเองเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของผม
  • ในกรณีที่ผมร่วงอย่างรุนแรง อาจพิจารณาวิธีการปลูกผมเพื่อเสริมรากผมที่หายไป

โรคผมร่วงเป็นหย่อม คืออะไร และสาเหตุเกิดจากอะไร?

ผมร่วงเป็นหย่อม หรือชื่อทางการแพทย์ว่า Alopecia Areata คือภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ โดยไปโจมตีเซลล์รากผมเอง ทำให้เส้นผมหลุดร่วงออกเป็นวงกลมหรือหย่อมเล็ก ๆ บนหนังศีรษะ ลักษณะเด่นคือไม่มีอาการอักเสบหรือแผลบริเวณที่ผมร่วง ผิวหนังดูเรียบเนียน

ถึงแม้โรคนี้จะไม่ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพโดยตรง แต่สามารถส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและความมั่นใจได้มาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดบริเวณที่สังเกตเห็นได้ชัด เช่น กลางศีรษะ ด้านข้าง หรือแนวไรผมด้านหน้า

ผมร่วงเป็นหย่อม พบได้บ่อยไหม?

ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถพบได้ในทั้งเพศชายและหญิง และเกิดได้ทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นหรือวัยทำงาน ซึ่งเป็นช่วงที่มีความเครียดสูง ภาวะนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก และถือเป็นหนึ่งในรูปแบบของอาการผมร่วงที่พบบ่อยในกลุ่มโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน

ในบางราย ผมร่วงอาจเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยและสามารถฟื้นฟูได้เอง แต่ในบางกรณี ผมร่วงอาจลุกลามเป็นวงกว้าง หรือเกิดซ้ำเป็นระยะ ซึ่งควรได้รับการประเมินและรักษาจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง

สาเหตุของผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากอะไร?

ต้นเหตุหลักของ ผมร่วงเป็นหย่อม มาจาก ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน (Autoimmune) ที่เข้าใจผิดว่าเซลล์รากผมเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงไปทำลายจนเส้นผมหยุดการเจริญเติบโตและหลุดร่วง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น:

  • ความเครียดสะสมหรือภาวะทางอารมณ์
  • กรรมพันธุ์หรือประวัติครอบครัวที่เคยมีโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ
  • การติดเชื้อหรือเจ็บป่วยที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
  • ภาวะขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก วิตามิน D

แม้ยังไม่มีวิธีป้องกันได้ 100% แต่การตรวจเช็กอาการตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยควบคุมไม่ให้ผมร่วงลุกลามได้

ลักษณะอาการผมร่วงเป็นหย่อม

  • ผมร่วงเฉพาะจุด เป็นวงกลมหรือหย่อมเล็ก ๆ
  • ไม่มีอาการคัน แสบร้อน หรือเจ็บบริเวณที่ผมร่วง
  • หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วงเรียบเนียน ไม่มีแผลหรือผื่น
  • ในบางรายอาจพบความผิดปกติที่เล็บ เช่น:
    • สีเล็บแปลกไป
    • หน้าเล็บขรุขระ
    • เล็บบางกว่าปกติ
    • เล็บแตกหรือเปราะง่าย

ภาวะนี้อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเครียดหรือไม่มั่นใจ จึงควรได้รับการดูแลทั้งด้านร่างกายและอารมณ์อย่างเหมาะสม

ประเภทของโรคผมร่วงเป็นหย่อม มีแบบไหนบ้าง?

โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของการหลุดร่วงของเส้นผม ซึ่งแต่ละประเภทมีความรุนแรงและขอบเขตที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลัก ๆ ดังนี้:

  • Alopecia Areata (ชนิดทั่วไป)
    ผมร่วงเป็นหย่อมหรือวงกลมเล็ก ๆ ในบางจุดของหนังศีรษะ เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุด มักเริ่มจากหย่อมเดียว และอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นภายหลัง

  • Alopecia Totalis
    ผมร่วงทั่วบริเวณหนังศีรษะ ไม่มีเส้นผมเหลือเลย หรือเหลือเพียงเล็กน้อย ถือเป็นระยะที่รุนแรงขึ้นของโรค

  • Alopecia Universalis
    ผมร่วงทั้งหมดทั่วร่างกาย ไม่เฉพาะศีรษะเท่านั้น แต่รวมถึงคิ้ว ขนตา หนวด เครา และขนตามแขนขา เป็นประเภทที่พบได้น้อยและรักษายากที่สุด

  • Ophiasis Pattern
    ผมร่วงตามแนวรอบขอบศีรษะ เช่น ด้านข้างท้ายทอยและรอบไรผม มักรักษายากและตอบสนองต่อการรักษาได้น้อยกว่าประเภทอื่น

  • Diffuse Alopecia Areata
    เป็นรูปแบบที่ผมร่วงกระจายทั่วหนังศีรษะอย่างรวดเร็ว โดยไม่จำกัดเป็นหย่อมหรือวงชัดเจน มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผมร่วงจากฮอร์โมนหรือปัญหาอื่น

การวินิจฉัยชนิดของโรคมีความสำคัญ เพราะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนก

ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดขึ้นกับใครได้บ้าง?

โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักพบในผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-40 ปี และพบในเพศหญิงอายุต่ำกว่า 45 ปี มากกว่าเพศชายเล็กน้อย

ภาวะที่พบร่วมกับอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ

แม้ว่าภาวะผมร่วงเป็นหย่อมโดยตัวมันเองจะไม่ได้เป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสุขภาพแต่ก็ยังพบว่ามีบางภาวะและโรคที่สามารถเกิดขึ้นร่วมกับอาการผมร่วงเป็นหย่อมได้ ดังนี้

ผื่นแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)

ผู้ที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ มีความเสี่ยงที่จะเกิดผื่นแพ้ตามผิวหนัง หรือที่เรียกว่า Atopic Dermatitis ร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้ผิวบริเวณที่เกิดอาการมีลักษณะแห้งลอก มีผื่นแดง คัน และมักจะเป็นในบริเวณเดียวกับที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อม

โรคด่างขาว (Vitiligo)

โรคด่างขาว หรือ Vitiligo เป็นภาวะทางผิวหนังที่เกิดจากการที่เซลล์ผิวหนังไม่สามารถสร้างเม็ดสีหรือเมลานินได้ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้น ๆ มีสีขาวอย่างผิดปกติขึ้นมา และอาจจะเป็นในบริเวณเดียวกับที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อม

โรคของต่อมไทรอยด์ (Thyroid disease)

มีการศึกษาพบว่าผู้ที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เนื่องจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งโรคที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroidism) หรือต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกิน (Hyperthyroidism)

โรคของเส้นเลือดและคอลลาเจน (Collagen-vascular disease)

โรคที่เกิดขึ้นกับหลอดเลือดและคอลลาเจน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์ตัวเอง มีความเชื่อมโยงกับการเกิดอาการผมร่วงเป็นหย่อมได้เช่นกัน เนื่องจากมีการทำลายเซลล์ของรากผมและเส้นผม ตัวอย่างโรคในกลุ่มนี้ เช่น โรคลูปัส (Lupus) เป็นต้น

โรคกังวล (Anxiety)

แม้โดยส่วนใหญ่สาเหตุของอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ยังไม่ชัดเจน แต่มีบางการศึกษาที่บ่งชี้ว่า ความเครียด ความกังวล และความผิดปกติทางจิตใจบางประเภท อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการผมร่วงเป็นหย่อมขึ้นได้ หากปล่อยให้มีความเครียดและวิตกกังวลเป็นระยะเวลานาน ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเผชิญกับ Alopecia Areata ได้เช่นกัน

ผมร่วงเป็นหย่อมอันตรายไหม? ผมร่วงมากขนาดไหนถึงควรพบแพทย์?

ผมร่วงเป็นหย่อมไม่ใช่โรคที่อันตรายต่อชีวิต แต่มีผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวัน และอาจมีผลทางจิตใจค่อนข้างมากโดยเฉพาะในผู้ที่ผมร่วงกินบริเวณกว้างเกือบทั่วศีรษะหรือมีผมร่วงมากกว่า 50% ของจำนวนผมบนศีรษะ ซึ่งในบางกรณี อาการอาจกลับมาดีขึ้นเองได้โดยไม่ต้องรักษา 

ผมร่วงเป็นหย่อม เป็นโรคอะไรไหม?

ผมร่วงเป็นหย่อม ไม่ใช่โรคที่อันตรายต่อชีวิต แต่สามารถส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตได้อย่างมาก โดยเฉพาะหากเกิดการร่วงในวงกว้าง เช่น มากกว่า 50% ของเส้นผมบนศีรษะ หรือร่วงจนเห็นหนังศีรษะชัดเจน

ในหลายกรณี อาการผมร่วงอาจดีขึ้นเองโดยไม่ต้องรักษา แต่บางครั้ง ผมร่วงเป็นหย่อม อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นที่แฝงอยู่ เช่น:

  • โรคไทรอยด์ผิดปกติ (ทั้งไฮโปและไฮเปอร์ไทรอยด์)
  • โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เช่น SLE (Systemic Lupus Erythematosus)
  • ภาวะขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี หรือวิตามิน D
  • ความเครียดเรื้อรังหรือปัญหาทางจิตเวช

หากคุณมีอาการ ผมร่วงมากผิดปกติ โดยเฉพาะในรูปแบบเป็นหย่อม ๆ และสังเกตเห็นร่วมกับอาการอื่น เช่น:

  • หนังศรีษะอักเสบ คันหรือมีแผล
  • เล็บผิดปกติ เช่น ขรุขระ หรือเปราะบาง
  • รู้สึกเหนื่อยง่าย ผิวแห้ง หนาวง่าย (อาจบ่งชี้โรคไทรอยด์)

ควรพบแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

สัญญาณที่ควรพบแพทย์ทันที ได้แก่:

  • ผมร่วงเกินกว่า 10–20% ของศีรษะ
  • ผมร่วงลุกลามอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
  • มีผื่นแดง แผล หรืออาการคันผิดปกติร่วมด้วย
  • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิคุ้มกัน

การตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยให้การรักษาได้ผลดี และลดโอกาสที่ผมจะร่วงเพิ่มขึ้นในอนาคต

ความแตกต่างระหว่าง ผมร่วงเป็นหย่อม และ ผมร่วงเป็นหย่อมจากอาการอื่นๆ เช่น แผลติดเชื้อ หรือ การแพ้สารเคมี

นอกเหนือจากอาการผมร่วงเป็นหย่อมที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติอย่างที่เราได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมจากสาเหตุอื่นๆ ที่ควรระมัดระวัง เช่น การติดเชื้อราบนหนังศีรษะ เชื้อแบคทีเรีย หรือการแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม (เช่น ยาย้อมผม ยืดผม และดัดผม) 

โดยให้สังเกตุความแตกต่างจากอาการอื่นๆ ที่มักจะเกิดขึ้นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น อาการคัน การเกิดแผลบนหนังศีรษะ หรือเส้นผมเปราะบางแตกหักง่าย ซึ่งถ้าหากคุณมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมปกติ จะไม่มีอาการผิวหนังเหล่านี้เกิดขึ้น

การวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อม

การวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อมมักพิจารณาจากลักษณะของผิวหนังและศีรษะของผู้ป่วย โดยแพทย์จะตรวจสอบลักษณะและขนาดของบริเวณที่ผมร่วง หากเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมมักจะพบการผมร่วงเป็นจุดๆ เป็นวงกลมหรือมีลักษณะเป็นรูปไข่เล็กๆ โดยที่ลักษณะผิวหนังมักเรียบ และจะไม่มีอาการแดงหรือผื่นคัน

ในบางกรณีที่แพทย์สงสัยว่าอาจมีโรคอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของอาการผมร่วง เช่น โรคไทรอยด์ หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง จะต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยใช้วิธีการตรวจเชิงพยาธิวิทยา เช่น การตรวจเลือด เป็นต้น

"หมดกังวลเรื่องผมร่วงเป็นหย่อม ให้ The One Clinic ช่วยดูแลเส้นผมของคุณ"

แนวทางการรักษาอาการผมร่วงเป็นหย่อมที่ The one clinic

การรักษาผมร่วงเป็นหย่อม

ที่ The one clinic เรามีวิธีรักษาผมร่วงเป็นหย่อมที่หลากหลาย และอาจมีการใช้แต่ละวิธีในทางเดี่ยวหรือผสมผสานกัน โดยวิธีการรักษาที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการของโรคในแต่ละบุคคล แนวทางการรักษาหลักๆ มีดังนี้

  1. การฉีดยาที่ได้รับการอนุมัติในการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม เช่น การฉีดยา Corticosteroid ลงไปบนจุดที่มีผมร่วง เป็นหย่อมโดยตรง 
โปรแกรมรักษาผมร่วงเป็นหย่อม

2. การทายา Minoxidil 5% ลงบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ในช่วงแรกของการรักษาอาการผมร่วงเป็นหย่อม และการทายาประเภท Corticosteroid ลงไปในบริเวณหนังศีรษะที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมโดยตรง เพื่อลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่จะเข้าไปทำลายรากผม

3. การใช้เลเซอร์ Low Level Laser Therapy (LLLT) ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ได้ จากสมมุติฐานที่ว่าแสงเลเซอร์สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างผมใหม่จาก สเต็มเซลล์ บนหนังศีรษะได้ 

4. การให้อาหารเสริม เช่น ซิงค์ (Zinc) หรือไบโอติน (Biotin) อาจมีส่วนช่วยให้ผมงอกเร็วขึ้นได้หลังจากการรักษาอาการผมร่วงเป็นหย่อมในช่วงแรก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผมร่วงเป็นหย่อม

ผมร่วงเป็นกระจุกเกิดจากอะไร?

ภาวะผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่โจมตีเซลล์ในรากผมของตัวเอง ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ส่วนมากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากอาจเกี่ยวข้องกับความเครียด ความกังวลหรือความผิดปกติทางฮอร์โมนในร่างกาย

โรคผมร่วงเป็นหย่อมกี่วันถึงจะหาย?

การรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม นั้นต้องใช้เวลา เนื่องจากรอบการเจริญเติบโตของเส้นผมแต่ละเส้นค่อนข้างนาน Alopecia Areata รักษาด้วยการใช้ยาทา ยาฉีด หรือการรักษาด้วยแสง โดยต้องรักษาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนถึงเส้นผมจะกลับมางอกได้ดังเดิม วิธีรักษาผมร่วงเป็นหย่อมที่ได้ผลดีคือ การปรึกษาแพทย์ผิวหนังและรักษาให้ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ

ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถหายเองได้ไหม

โรคผมร่วงเป็นหย่อม จะสามารถหายเองได้ภายใน 3-6 เดือน แต่ถ้ามีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น เช่น ผมร่วงมากกว่า 50% ของเส้นผมบนหนังศีรษะ หรือมีอาการทางผิวหนังอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คัน เป็นแผล ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว

ต้องรักษานานขนาดไหนหรือกี่ครั้ง

90% ของคนไข้ที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมจะมีอาการดีขึ้นภายใน 3 เดือนหลังจากการฉีดยาสเตียรอยด์ โดยปกติ เส้นผมจะงอกขึ้นประมาณ 0.5-1 เซนติเมตรต่อเดือน ดังนั้น การรักษาต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเริ่มเห็นผล

ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม

อาการผมร่วงเป็นหย่อมสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถเป็นกลับมาได้อีกที่จุดเดิม หรือจุดใหม่

วิตามินและอาหารอะไรบ้างที่ช่วยบำรุงเส้นผมและการงอกขึ้นใหม่

อาหารเสริมต่างๆ เช่น ซิงค์ ไบโอติน มีส่วนช่วยให้เส้นผมงอกเร็วขึ้นได้หลังจากการรักษาในเบื้องต้น รวมถึงปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเชีย น้ำมันคาโนลา วอลนัท ถั่วเหลือง เต้าหู้ และพืชตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว เป็นต้น

สรุป

ผมร่วงเป็นหย่อม อาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย ดังนั้น ควรดูแลตนเองให้แข็งแรง และหากมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมควรเข้ารับการตรวจกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม หากมีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม The One Clinic ห้วยขวาง ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อม

บทความที่คล้ายกัน

โรคดึงผมตัวเอง

โรคดึงผมตัวเอง ดึงซ้ำๆ หยุดไม่ได้ คืออะไร? สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

ดึงผมซ้ำๆ จนผมบาง หนังศีรษะแดงเป็นแผล? อาจเข้าข่ายโรค Trichotillomania ที่มีสาเหตุจากภาวะทางจิตใจ รู้สาเหตุ พร้อมแนวทางรักษาที่ได้ผลจริงกับ The One Clinic

สิวที่แขน

สิวที่แขน ขึ้นซ้ำๆ รู้สาเหตุ พร้อมวิธีรักษาและป้องกันอย่างตรงจุด

สิวที่แขนเกิดจากอะไร? รวมสาเหตุยอดฮิต วิธีรักษาสิวที่แขนแบบได้ผล พร้อมแนวทางป้องกันไม่ให้กลับมาอีก เหมาะกับทุกสภาพผิว

รากผมไม่แข็งแรง รากผมฝ่อ

รากผมไม่แข็งแรง รากผมฝ่อ รู้สาเหตุ อาการ และวิธีฟื้นฟูให้กลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง

ปัญหารากผมไม่แข็งแรง รากผมฝ่อเกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ อาการที่ควรระวัง พร้อมวิธีฟื้นฟูรากผมให้แข็งแรง ให้เส้นผมกลับมาสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ