สิวที่แก้มขึ้นเยอะมาก สาเหตุคืออะไร? รักษาอย่างไรให้หายเร็ว?

สิวที่แก้มเป็นอีกปัญหากวนใจ เพราะเห็นชัด หายช้า แถมยังทำให้แต่งหน้าไม่สวยเป๊ะอย่างที่ต้องการ ซึ่งวันนี้ The One Clinic จะพาไปดูว่าสาเหตุคืออะไร? แล้วป้องกันได้ไหม?

รู้ทันสาเหตุของการเกิดสิวที่แก้ม

ก่อนอื่นต้องบอกคนที่มีสิวที่แก้มว่าไม่ต้องกังวลไป เพราะสิวที่แก้มก็เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบริเวณรูขุมขน แล้วเกิดเป็นตุ่มสิวขึ้นมา ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

  1. ฮอร์โมน: เมื่อฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) เพิ่มมากขึ้น จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและเป็นสิว
  2. ความมันบนผิวหนัง: หากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป น้ำมันส่วนเกินก็จะไปอุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้
  3. แบคทีเรีย: เชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) มักอาศัยอยู่ในรูขุมขน เมื่อมีน้ำมันสะสม แบคทีเรียเหล่านี้จะเจริญเติบโตและก่อให้เกิดสิว ซึ่งแบคทีเรียจะอยู่ที่มือ หน้ากากอนามัย และหน้าจอโทรศัพท์
  4. การเสียดสี: การเสียดสีจากหน้ากากอนามัย ปลอกหมอน โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์แต่งหน้า ก็เป็นสาเหตุของสิวที่แก้มได้เช่นกัน เมื่อผิวโดนเสียดสีจนระคายเคืองก็จะง่ายต่อการอักเสบ
  5. มลภาวะ: มลภาวะในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง PM2.5 ควันพิษ ทำให้ผิวหนังระคายเคือง อักเสบง่าย และก่อให้เกิดการอุดตันจนมีสิวขึ้นมา
  6. พฤติกรรมโดยทั่วไป: หลายคนชอบเอามือสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวโดนเสียดสี หรือแม้แต่การนอนหลับไม่เพียงพอ ทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันสูง และการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว
  7. พันธุกรรม: หากสมาชิกในครอบครัวเป็นสิว คุณก็มีโอกาสเป็นสิวมากกว่าคนทั่วไป
  8. เครื่องสำอาง : การใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท non-comidogenic และ ดูแลความสะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้าอย่างสม่ำเสมอ อาทิ แปรง พัฟ
  9. ยาบางชนิด: สำหรับใครที่จำเป็นต้องรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด ก็จะมีส่วนประกอบในยาที่กระตุ้นให้เกิดสิว

สิวที่แก้ม เป็นสิวประเภทใดบ้าง?

สิวที่แก้มมีกี่ประเภท

คนที่เคยเป็นสิวที่แก้มคงรู้ดีว่าบริเวณนี้เกิดสิวได้ทุกประเภท ขึ้นอยู่กับปัจจัยกระตุ้น ฮอร์โมน สภาพแวดล้อม รวมทั้งพฤติกรรมในแต่ละช่วงเวลา ทาง The One Clinic รวบรวมประเภทของสิวที่พบบ่อยบริเวณแก้มมาให้แล้วค่ะ

  • สิวอุดตัน (Comedonal Acne)
    เกิดจากน้ำมันและเซบัม (เซลล์ผิวหนังที่ตาย) อุดตันที่รูขุมขนที่ยังไม่มีการอักเสบเกิดขึ้น ในช่วงต้นหัวสิวจะเป็นสีขาว (Whiteheads) แต่เมื่อโดนอากาศนาน ๆ ก็จะเกิดปฏิกิริยากับอากาศและเปลี่ยนเป็นสีดำ (Blackheads)
  • สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)
    สิวอักเสบเกิดขึ้นเมื่อสิวอุดตันมีการติดเชื้อ โดยเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการอักเสบมากที่สุดคือเชื้อแบคทีเรียตระกูล P. acnes อาจทำให้รู้สึกปวดระบมที่สิวอักเสบและบวมแดงได้
  • สิวไม่มีหัว (Pustules)
    สิวที่ไม่มีหัวหนองจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มีไตแข็งๆ ขนาดเล็กอยู่ภายใน 
  • สิวหัวช้าง (Nodulocystic Acne)
    สิวหัวช้างเป็นรูปแบบของสิวที่อักเสบลึกลงในชั้นผิวหนัง จะมีรอยแดงและอาการบวมอย่างมาก มีขนาดใหญ่และอาจทำให้เกิดรอยแผลหรือรอยดำในระยะยาวได้

นอกจากนี้ ในกรณีที่มีสิวที่แก้มแล้วไม่มีหัว แต่มีอาการคันร่วมด้วย อาจจะเป็นเพราะมีอาการแพ้หรือมีอาการสิวไรขน หรือ สิวเชื้อรา

วิธีการป้องกันการเกิดสิวที่แก้ม

การป้องกันการเกิดสิวบนแก้มมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ค่ะ ซึ่งล้วนเป็นวิธีง่ายๆ ที่คุณทำได้เองที่บ้าน หลักๆ จะเป็นการรักษาความสะอาด ดูแลผิวให้แข็งแรง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้ห่างจากปัจจัยเกิดสิว

  1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ: ควรทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วยเจลล้างหน้าที่ไม่ทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ตามด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า เพื่อล้างสิ่งสกปรก ฝุ่น และไขมันส่วนเกินที่จะเข้าไปอุดตันรูขุมขน 
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป: เพราะอาการผิวแห้งส่งผลให้มีการผลิตน้ำมันใต้ผิวหนังมากขึ้น ทำให้ผิวหน้าอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย
  3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่หนาหรือมากเกินไป: หากเป็นเรื่องจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอาง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท non-comidogenic ไร้สารเคมีอันตราย และเนื้อสัมผัสบางเบา ป้องกันการอุดตันรูขุมขน
  4. การดูแลสุขภาพทั่วไป: ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดของหวาน ของมัน ของหมักดอง และทานผักผลไม้มากขึ้น นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายเป็นประจำและดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว ช่วยให้ระบบขับถ่ายและระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าโดยไม่จำเป็น: การสัมผัสผิวหน้าโดยไม่จำเป็นอาจทำให้เกิดการแพ้และการติดเชื้อ ยิ่งลูบหน้าบ่อย ยิ่งเกิดสิวซ้ำๆ
  6. ทำความสะอาดสิ่งของที่ต้องสัมผัสแก้มของเราอย่างสม่ำเสมอ: เช่น โทรศัพท์มือถือ ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน

แชร์วิธีรักษาสิวที่แก้มให้หายขาด

สิวที่แก้มอาจจะเกิดขึ้นบ่อย เกิดขึ้นซ้ำ และรักษายาก แต่ก็ไม่ใช่สิวที่รุนแรงจนรักษาไม่ได้ ซึ่งวิธีการก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว อาการร่วมอื่นๆ และระยะเวลาในการรักษา ลองมาดูกันว่าเราสามารถจัดการสิวที่แก้มด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

1.รักษาด้วยยาทาภายนอก

  • สิวทั่วไป ยาทาประเภท Retinoids และ Benzoyl peroxide ช่วยลดอาการอุดตันของรูขุมขนได้
  • สิวเชื้อรา สามารถใช้ครีม Ketoconazole ฆ่าเชื้อยีสต์ได้
  • สิวไรขน สามารถใช้ยาทา Metronidazole ช่วยลดจำนวนของ Demodex ลงได้
  • สิวฮอร์โมน สามารถใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบของ Vitamin B3 เกิน 2% ขึ้นไป ช่วยให้ร่างกายควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิวของเราได้

2.หาสาเหตุที่เป็นสิวที่แก้ม

จากประสบการณ์ของหมอหนึ่ง ในกรณีที่คนไข้มีสิวที่แก้มเรื้อรัง มีสาเหตุมาจากการแพ้เครื่องสำอาง หรือ มีอาการติดเชื้อไรขน และ สิวเชื้อราร่วมด้วย ควรรักษาควบคู่กันถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนและหายขาด ทางที่ดีควรรับบริการตรวจเชื้อสิวที่ The One Clinic เพื่อหาต้นตอของการเกิดสิว

3. Intense Pulsed Light (IPL)
นวัตกรรมรักษาสิวด้วยลำแสงเข้มข้นที่มีความยาวคลื่นแสงหลายระยะที่สามารถฆ่าเชื้อสิว และลดความมันของหน้า รวมถึงรอยสิวได้ ทำให้รักษาสิวอย่างเห็นผล พร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอกันอีกด้วย

4. Monopolar RF
นวัตกรรมพลังงานคลื่นวิทยุ หรือ Radio Frequency (RF) ที่ช่วยรักษาสิวอักเสบที่เป็นเรื้อรังหรือสิวที่เกิดขึ้นบริเวณเดิมซ้ำๆ ให้หายขาด โดยพลังงานคลื่นวิทยุจะเข้าไปฆ่าเชื้อ P. Acne ที่สิว ทำลายต่อมไขมันบริเวณที่เกิดสิวอักเสบให้สลาย ช่วยลดสิวหัวขาวและสิวหัวดำที่เกิดจากต่อมไขมันทำงานผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ผิวหน้าจะกลับมาเรียบเนียน ไร้สิว ไร้รอยดำรอยแดงง

The One Clinic รักษาสิวหาย เห็นผลลัพธ์ชัดเจน

ไม่ว่าคุณจะเป็นสิวที่แก้ม หน้าผาก คาง ลำคอ หรือแผ่นหลัง The One Clinic ก็ช่วยรักษาให้หายขาดและตรงจุด โดยมีคุณหมอหนึ่งดูแลเองทุกเคส ตั้งแต่การวินิจฉัยอาการ ตรวจเชื้อสิว รวมทั้งออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คุณจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและมีผิวที่แข็งแรงขึ้นอีกครั้ง

The One Clinic มีทั้งบริการรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง ติ่งเนื้อ รวมไปถึงคอร์สเลเซอร์และทรีทเมนต์ที่ช่วยดูแลผิวครบวงจร เสริมความแข็งแรง กระตุ้นคอลลาเจน ไปจนถึงการปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ มาที่เดียวครบทุกเรื่องผิวเลยค่ะ

สนใจปรึกษาหมอหนึ่ง พบกันที่ The One Clinic คลินิกย่านห้วยขวาง เดินทางง่าย ใกล้รถไฟฟ้า MRT 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 093-583-0921

FAQ

Q : เป็นสิวที่แก้มแต่งหน้าได้หรือไม่ ? 
A : การแต่งหน้าในขณะที่มีสิวที่แก้มสามารถทำได้  แต่ควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้สิวอักเสบมากขึ้น แต่ควรเลือกใช้เครื่องสำอางแบบ “Oil-free” หรือ “Non-comedogenic” หรือ “Hypoallergenic” และดูแลผิวตามขั้นตอนต่างๆ

  • ล้างหน้าให้สะอาด ทั้งก่อน-หลังการแต่งหน้า
  • ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนการแต่งหน้าเสมอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
  • แต่งหน้าบางๆ ไม่หนาจนเกินไป
  • ไม่ลูบหน้าหรือแกะสิว

Q : สิวขึ้นที่แก้ม ใช้เวลากี่วันถึงจะหายดี?
A : ถ้าไม่มีอาการอักเสบก็สามารถหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หากเป็นสิวอักเสบ อาจใช้เวลานานกว่า 2-4 สัปดาห์ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ถ้าสิวมีความรุนแรงมากหรือมีรอยแผลเป็นจากสิว แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องจะดีกว่า

Q : สิวขึ้นที่แก้ม ไม่ควรใส่หน้ากากอนามัยใช่ไหม?
A : คุณสามารถสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคและฝุ่น PM2.5 ได้ตามปกติ แต่ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อยๆ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย รวมทั้งเลือกใช้หน้ากากอนามัยที่ไม่มีน้ำหอม ก็จะช่วยลดโอกาสที่ผิวจะเกิดความระคายเคืองได้

บทความที่คล้ายกัน

ผมบาง

ผมบางก็กลับมาหนาได้! รู้สาเหตุ วิธีป้องกันและรักษาให้ตรงจุด บอกลาปัญหาผมขาดร่วง

บอกลาปัญหาผมบาง! เพียงรู้สาเหตุของผมบางและผมร่วง พร้อมวิธีป้องกันและวิธีรักษาอย่างตรงจุด เพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาหนา แข็งแรง หมดปัญหาผมขาดหลุดร่วง

สิวที่คอ

สิวที่คอเป็นซ้ำ ๆ ซาก ๆ เกิดจากอะไร? ควรดูแลและรักษาอย่างไรให้หาย

สิวที่คอเกิดจากอะไร? รู้สาเหตุที่ทำให้สิวที่คอเป็นซ้ำ ๆ พร้อมคำแนะนำวิธีการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวกลับมาเนียนใสไร้สิวไม่เกิดซ้ำ

เซ็บเดิร์ม

เซ็บเดิร์ม คืออะไร? เซ็บเดิร์มที่หน้าและศีรษะ รักษาให้หายได้ไหม?

เซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) คืออะไร? รู้วิธีรักษาและควบคุมอาการผื่นแดงคันจากเซ็บเดิร์มที่หน้าและศีรษะ พร้อมวิธีป้องกันในการดูแลผิวจาก The One Clinic