รูขุมขนกว้าง (Enlarged pores) คือ ลักษณะที่รูเปิดของต่อมไขมันบนผิวหนังมีขนาดใหญ่กว่าปกติจนสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน และอาจมีลักษณะคล้ายรอยหยักหรือหลุมเล็ก ๆ กระจายอยู่บนผิวหนัง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันมาก เช่น หน้าผาก จมูก คาง (T-zone) และแก้ม ยังไงวันนี้ลองติดตามบทความของ The One Clinic เพื่อเข้าใจสาเหตุและวิธีการดูแลผิวหน้ากันนะคะ
สารบัญ
รูขุมขนกว้าง เกิดจากอะไร?

ปัญหารูขุมขนกว้างสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยเลย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย หมอหนึ่งรวบรวมสาเหตุที่พบบ่อยมาฝากกันแล้วค่ะ
- การผลิตน้ำมันมากเกินไป: เมื่อต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมัน (sebum) ออกมามากเกินไป รูขุมขนจำเป็นต้องขยายตัวเพื่อระบายน้ำมันเหล่านี้ออกมา ผู้ที่มีผิวมันจึงมักมีปัญหารูขุมขนกว้าง
- พันธุกรรม: ลักษณะของรูขุมขนสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากคนในครอบครัวมีปัญหารูขุมขนกว้าง ก็มีแนวโน้มที่คุณจะมีปัญหานี้เช่นกัน
- อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวจะลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและกระชับ รูขุมขนจึงขยายกว้างขึ้นและหย่อนคล้อยตามไปด้วย
- แสงแดด: การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน รังสียูวี (UV) จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวหยาบกร้าน ขาดความยืดหยุ่น และรูขุมขนกว้างขึ้นได้
- การดูแลผิวไม่ถูกวิธี:
- การล้างหน้าไม่สะอาด ทำให้สิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และน้ำมันส่วนเกิน ตกค้างอุดตันในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนขยายตัว
- การบีบ แกะ หรือแคะสิว อาจทำให้รูขุมขนอักเสบและเกิดแผลเป็น ส่งผลให้รูขุมขนกว้างขึ้น
- การขัดผิวหน้าบ่อยเกินไปหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง อาจทำให้ผิวระคายเคืองและรูขุมขนกว้างขึ้น
- การใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน (comedogenic)
- สิว: สิวอุดตันและสิวอักเสบทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและขยายตัวเป็นเวลานาน เมื่อสิวหายไปอาจทิ้งร่องรอยเป็นรูขุมขนที่กว้างขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่น ในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงก่อนมีประจำเดือน ร่างกายอาจกระตุ้นการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน
- ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ: ความเครียดกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ส่วนการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ผิวไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ส่งผลให้รูขุมขนขยายตัวได้
- การสูญเสียความชุ่มชื้นของผิว: ผิวที่แห้งขาดน้ำอาจทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นได้เช่นกัน
The One Clinic แชร์วิธีดูแลผิวสำหรับคนรูขุมขนกว้าง

ปัญหารูขุมขนกว้างเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลใจ แต่ด้วยการดูแลผิวที่ถูกวิธีและสม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยให้รูขุมขนดูกระชับลงและผิวโดยรวมดูเรียบเนียนขึ้นได้ นี่คือคำแนะนำในการดูแลผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างนะคะ
ทำทุกวัน (เช้า-เย็น):
- ล้างหน้าสะอาด: ใช้คลีนเซอร์อ่อนโยน ล้างด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ซับหน้าเบา ๆ (ถ้าแต่งหน้า/ทาครีมกันแดด ตอนเย็นควรใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดหน้าก่อนล้างหน้า)
- ลงโทนเนอร์ (ถ้ามี): เลือกสูตรช่วยกระชับรูขุมที่มีส่วนผสมของ Witch Hazel และต้องไม่มีแอลกอฮอล์ปริมาณสูง
- ทาเซรั่ม/สกินแคร์ ที่ช่วยควบคุมความมันหรือกระชับรูขุมขน: เลือกที่มีส่วนผสม เช่น Niacinamide, Lactic Acid, หรือ Retinoid (ใช้ Retinoid เฉพาะกลางคืน และเริ่มจากความเข้มข้นน้อย ๆ)
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์: เลือกเนื้อบางเบา ไม่หนักหน้า (แม้ผิวมันก็ต้องทามอยส์เจอร์ไรเซอร์)
- ทากันแดด (ตอนเช้า): อย่างน้อย SPF 50 PA+++ เป็นประจำทุกวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมาก ๆ เป็นประจำ: การพักผ่อนที่เพียงพอและการดื่มน้ำช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี แข็งแรง และซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น
ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง:
- ผลัดเซลล์ผิว: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA หรือ BHA
- มาสก์หน้า: มาสก์โคลนช่วยดูดซับความมัน หรือมาสก์ที่ช่วยกระชับรูขุมขน
ข้อควรจำ:
- ห้ามบีบแกะสิว/รูขุมขน
- เลือกเครื่องสำอาง/สกินแคร์ที่ไม่ทำให้อุดตัน (Non-comedogenic)
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนพอ
- ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดรูขุมขนกว้าง
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและมีส่วนผสมที่ช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้างอย่างตรงจุด จะช่วยให้รูขุมขนดูกระชับลงและผิวเรียบเนียนขึ้นได้ โดยสามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์และส่วนผสมสำคัญได้ดังนี้ค่ะ
- คลีนเซอร์ (Cleanser): ใช้คลีนเซอร์อ่อนโยน ล้างด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ซับหน้าเบา ๆ ไม่ควรเช็ดหน้าแรง ๆ เพราะจะทำให้ผิวบอบบาง
- เซรั่ม/ทรีตเมนต์ (Serum/Treatment):
- Niacinamide (วิตามิน B3): ช่วยคุมมัน กระชับรูขุมขน
- Retinoids (เช่น Retinol): ผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นคอลลาเจน (ใช้เฉพาะกลางคืน)
- BHA/AHA: ผลัดเซลล์ผิวที่อุดตันและผิวชั้นนอก
- มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer): เนื้อบางเบา ไม่ทำให้อุดตัน (Non-Comedogenic)
- ครีมกันแดด (Sunscreen): SPF 50 PA+++ ขึ้นไป (ต้องทากันแดดทุกวัน ป้องกันรูขุมขนกว้างจากแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ)
- มาสก์ (Mask): สามารถใช้มาสก์โคลน (Clay Mask) ดูดซับความมัน (สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง)
ข้อสำคัญ คือเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง และใช้อย่างสม่ำเสมอค่ะ
วิธีรักษารูขุมขนกว้าง และ กระชับรูขุมขน ที่เห็นผลลัพธ์ชัดขึ้น
ปัญหารูขุมขนกว้างสามารถจัดการได้ด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีร่วมกับการรักษาทางการแพทย์เมื่อจำเป็น เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสร้างปราการผิวที่แข็งแรงจากผิวชั้นในสู่ผิวหนังชั้นนอก
1.วิธีดูแลและกระชับรูขุมขนด้วยตนเอง (ทำได้เองที่บ้าน)
สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวค่ะ การดูแลด้วยตนเองจะช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้น และป้องกันไม่ให้ปัญหารุนแรงขึ้น
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA (เช่น Glycolic Acid, Lactic Acid): สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณผิวชั้นนอก ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- การบำรุงด้วยสกินแคร์ที่ช่วยกระชับรูขุมขน:
- Niacinamide (วิตามิน B3): ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอักเสบ และช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น
- Retinoids (กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Retinol, Retinaldehyde): ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นในระยะยาว ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ ใช้เฉพาะตอนกลางคืน และจำเป็นต้องทาครีมกันแดดสม่ำเสมอในตอนเช้า
- ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว: แม้ผิวมันก็ต้องการความชุ่มชื้น เลือกเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และเป็นสูตร Non-Comedogenic ผิวที่ชุ่มชื้นสมดุลจะผลิตน้ำมันน้อยลง
- ทาครีมกันแดด SPF 50 PA+++ ขึ้นไปทุกวัน: แสงแดดทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและรูขุมขนกว้างขึ้น การป้องกันแสงแดดจึงสำคัญมากนะคะ
- สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
- การบีบ แกะ หรือแคะสิวและรูขุมขน: เพราะจะทำให้รูขุมขนอักเสบและกว้างขึ้นถาวรได้
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงที่เป็นการขัดผิวหรือทำให้ผิวแห้งตึงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวบอบบางลง
2. วิธีรักษารูขุมขนกว้างกับแพทย์
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องปัญหารูขุมขนกว้าง ดูแลด้วยตนเองยังไงก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ หรือต้องการเห็นผลเร็วและชัดเจนขึ้น การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะแพทย์จะประเมินสภาพผิวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นการรักษาอย่างเดียวหรือหลายวิธีร่วมกัน ดังนี้:
- ยาทากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอความเข้มข้นสูง: เช่น Tretinoin, Adapalene ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Retinol ที่หาซื้อได้ทั่วไป แต่อาจมีผลข้างเคียงเรื่องการระคายเคือง จึงต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
- การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peels): แพทย์จะใช้กรดผลไม้หรือสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้เองที่บ้าน เพื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นบนอย่างล้ำลึก ช่วยลดการอุดตัน กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น
- เลเซอร์ (Laser Treatments): มีหลายชนิดที่ช่วยเรื่องรูขุมขน เช่น
- Fractional RF: ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) โดยพลังงานความร้อนจะลงไปกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวได้ลึกขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการกระชับรูขุมขนและสร้างผิวหนังขึ้นมาใหม่ ได้ผล 30-40% ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก ผลข้างเคียงน้อย
- Monopolar RF: ในกรณีที่ผิวมันมากสามารถใช้พลังงานคลื่นวิทยเพื่อลดการทำงานของต่อมไขมัน และกระชับรูขุมขนได้
- Pico Laser: ช่วยปรับสภาพผิวโดยรวม ลดเม็ดสี กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูละเอียดขึ้น รูขุมขนเล็กลง
- การฉีดสารเติมเต็มกลุ่ม Hyaluronic Acid เนื้อละเอียด (Skinboosters): ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและยืดหยุ่นขึ้น เมื่อผิวโดยรอบรูขุมขนดูเต็มขึ้น รูขุมขนก็จะดูเล็กลงได้
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรูขุมขนกว้าง
Q: รูขุมขนกว้างเกิดจากอะไรได้บ้าง?
A: รูขุมขนกว้างอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น:
- พันธุกรรม: เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่กำหนดลักษณะของผิว
- ผิวมัน: การผลิตน้ำมัน (ซีบัม) มากเกินไป ทำให้รูขุมขนขยายตัวเพื่อระบายน้ำมัน
- อายุที่เพิ่มขึ้น: คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อย รูขุมขนจึงดูกว้างขึ้น
- แสงแดด: ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพและรูขุมขนกว้างขึ้น
การอุดตันของรูขุมขน: จากสิ่งสกปรก เครื่องสำอางตกค้าง เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และน้ำมันส่วนเกิน - การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม: เช่น การบีบหรือแกะสิว และการขัดถูผิวอย่างรุนแรง
Q: รูขุมขนสามารถเล็กลงจนมองไม่เห็นได้หรือไม่?
A: ไม่สามารถทำให้รูขุมขน “หายไป” หรือ “ปิดสนิท” ได้อย่างถาวร เนื่องจากรูขุมขนเป็นโครงสร้างตามธรรมชาติของผิวหนังที่มีหน้าที่ระบายเหงื่อและน้ำมัน แต่สามารถทำให้รูขุมขนดูเล็กลงและกระชับขึ้นได้ด้วยการดูแลผิวที่เหมาะสมหรือใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์
Q: เฉพาะคนผิวมันเท่านั้นหรือที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง?
A: ไม่เสมอไปค่ะ คนผิวมันมีแนวโน้มรูขุมขนกว้างเนื่องจากมีการผลิตน้ำมันมาก แต่ผิวแห้งหรือผิวผสมก็อาจมีรูขุมขนกว้างได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นหรือเสื่อมสภาพตามอายุ
Q: การแต่งหน้าทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นจริงหรือไม่?
A: การแต่งหน้าโดยตรงไม่ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น แต่หากล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน (Comedogenic) จะทำให้รูขุมขนขยายตัวได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้ง
Q: การบีบสิวเสี้ยนหรือสิวอุดตันทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นหรือไม่?
A: จริงค่ะ การบีบหรือกดสิวอย่างไม่เหมาะสม อาจทำให้ผนังรูขุมขนเสียหาย เกิดการอักเสบ และสูญเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้รูขุมขนกว้างขึ้นถาวรได้เลยนะคะ
Q: มีวิธีทำให้รูขุมขนกระชับลงแบบเร่งด่วนไหม?
A: การประคบเย็นด้วยน้ำแข็งหรือการใช้มาสก์บางประเภทสามารถทำให้รูขุมขนดูเล็กลงได้ชั่วคราว สำหรับผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน ควรพิจารณาการรักษาทางการแพทย์ เช่น Fractional RF ซึ่งอาจเห็นผลได้ถึง 30–40% ตั้งแต่ครั้งแรก
Q: สกินแคร์ที่มีส่วนผสมใดบ้างที่ช่วยกระชับรูขุมขน?
A: ส่วนผสมที่นิยม ได้แก่:
- AHA (เช่น Glycolic Acid, Lactic Acid): ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน
- Niacinamide (วิตามิน B3): ควบคุมความมัน ลดการอักเสบ และกระชับรูขุมขน
- Retinoids (เช่น Retinol): เร่งการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- สารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น วิตามินซี): ช่วยปกป้องผิวและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน
Q: รูขุมขนกว้างสามารถป้องกันได้หรือไม่?
A: แม้ไม่สามารถควบคุมพันธุกรรมได้ แต่สามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดรูขุมขนกว้างจากปัจจัยอื่นได้ เช่น ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ทำความสะอาดผิวอย่างถูกต้อง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน และหลีกเลี่ยงการบีบสิว
Q: เมื่อใดควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเรื่องรูขุมขนกว้าง?
A: หากใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแล้วไม่เห็นผล หรือรูขุมขนกว้างส่งผลต่อความมั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยา การทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ หรือหัตถการอื่น
Q: การรับประทานอาหารส่งผลต่อรูขุมขนหรือไม่?
A: อาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันทรานส์ หรือแปรรูปมากอาจกระตุ้นการอักเสบและการผลิตน้ำมัน ทำให้รูขุมขนอุดตันและดูกว้างขึ้นได้ การรับประทานอาหารที่สมดุล ดื่มน้ำเพียงพอ และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปจะช่วยให้สุขภาพผิวโดยรวมดีขึ้น