สิวหัวดำ ปัญหาสิวที่ไม่รุนแรง ไม่อักเสบ แต่กวนใจไม่น้อย เพราะรักษานานกว่าจะหาย ที่สำคัญยังรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างการบำรุงผิว การแต่งหน้า การปกปิดสิว เพื่อให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน The One Clinic จะพาไปทำความรู้จักต้นตอและการรักษาสิวหัวดำให้เข้าใจมากขึ้น
รู้จัก ‘สิวหัวดำ’ กันก่อน
สิวหัวดำ (Blackheads) หรือ สิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedones) เกิดจากเซลล์ผิวหนังกำพร้าชั้นบน (Keratinocytes) ที่ควรจะผลัดตัวและหลุดออกไปจากรูขุมขน แต่กลับจับตัวกันขวางรูขุมขนไว้จนเกิดเป็นสิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หรือที่เรียกว่า “Microcomedones” เมื่อสิ่งที่สร้างจากภายในรูขุมขนอย่างเคราตินและซีบัม (Sebum) ไม่มีทางออกสู่ภายนอก จึงสะสมรวมกันเกิดเป็น Microcomedones จนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็น “Comedones” หรือสิวอุดตันขึ้นมา เมื่อสิ่งอุดตันเหล่านี้สัมผัสกับอากาศ ส่วนที่เปิดของรูขุมขนจะถูกออกซิไดซ์ ทำให้เกิดสีดำที่เราเห็นกัน
แยกให้ออกว่าสิวหัวดำมีลักษณะอย่างไร?
สำหรับสิวหัวดำจะมีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ นูนขึ้นมาจากผิวหนัง มีหัวสีดำหรือสีคล้ำอยู่ตรงกลาง โดยขนาดของสิวหัวดำจะแตกต่างกันไป ตั้งแต่ขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า หัวสิวจะมีลักษณะเป็นก้อนแข็งคล้ายไต กดแล้วไม่ยุบ หากปล่อยไว้นานๆ สามารถทำให้รูขุมขนกว้างได้ และสามารถกลายเป็นสิวอักเสบได้จากการสะสมของแบคทีเรียบนผิวหน้า
สาเหตุของสิวหัวดำ เกิดจากอะไรได้บ้าง?
สาเหตุหลักๆ ของสิวหัวดําแข็งๆ คือการสะสมตัวของเซลล์ที่ตายแล้วและซีบัม (Sebum) ในช่องรูขุมขน ทำให้ช่องรูขุมขนขยายจนเปิดออก และมีจุดสีเข้มที่อุดตันรูขุมขนอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ ดังนี้
ปัจจัยภายใน
สำหรับปัจจัยภายในที่กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ ส่วนมากจะเกิดจากปัจจัยด้านร่างกาย กลไกการทำงานของต่อมผลิตน้ำมัน รวมทั้งการหลั่งฮอร์โมนในแต่ละบุคคล
- การผลิตน้ำมันส่วนเกิน: ต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของน้ำมันบนผิวหนัง เมื่อน้ำมันรวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรก ก็ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนและกลายเป็นสิวหัวดำ
- การผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ: เมื่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิวไม่สม่ำเสมอ เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะสะสมอยู่ในรูขุมขนและอุดตันร่วมกับน้ำมัน ทำให้เกิดสิวหัวดำได้ง่าย
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงวัยรุ่น หรือ ช่วงรอบเดือนของผู้หญิง สามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมัน ทำให้เกิดสิวหัวดำได้ง่ายขึ้น
- พันธุกรรม: บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวหัวดำได้ง่ายกว่าคนอื่น เนื่องจากพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันและการผลัดเซลล์ผิวนั่นเอง
ปัจจัยภายนอก
ปัจจัยภายนอกเองก็มีส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม: ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจอุดตันรูขุมขน หรือกระตุ้นการผลิตน้ำมัน ทำให้เกิดสิวหัวดำและสิวชนิดอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
- การเผชิญมลภาวะ: ฝุ่น ควัน และสิ่งสกปรกในอากาศ สามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวหัวดำ
- การเสียดสีหรือการกดทับผิว: การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ การสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานานๆ หรือการใส่หมวก แว่นตา ที่รัดแน่นเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นการผลิตน้ำมันได้เช่นกัน
- ความเครียด: ความเครียดสามารถส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมน และทำให้เกิดสิวหัวดำได้
สิวหัวดำ กับ สิวเสี้ยน ต่างกันอย่างไร ?
ปัจจัยภายนอกเองก็มีส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม: ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจอุดตันรูขุมขน หรือกระตุ้นการผลิตน้ำมัน ทำให้เกิดสิวหัวดำและสิวชนิดอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
- การเผชิญมลภาวะ: ฝุ่น ควัน และสิ่งสกปรกในอากาศ สามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวหัวดำ
- การเสียดสีหรือการกดทับผิว: การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ การสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานานๆ หรือการใส่หมวก แว่นตา ที่รัดแน่นเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นการผลิตน้ำมันได้เช่นกัน
- ความเครียด: ความเครียดสามารถส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมน และทำให้เกิดสิวหัวดำได้
หลายคนอาจจะยังสับสนเพราะสิวหัวดำ (Blackhead) และ สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) มีลักษณะคล้ายกันมาก แต่จริงๆ แล้วมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง? ลองดูตารางนี้กันค่ะ
ชนิดของสิว | สิวหัวดำ (Blackhead) | สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) |
---|---|---|
ลักษณะ | เป็นตุ่มนูนเล็กๆ มีหัวสีดำหรือสีคล้ำอยู่ตรงกลาง | เป็นจุดดำเล็กๆ หรือตุ่มนูนเล็กๆ บนผิวหนัง อาจมีลักษณะเป็นหนามแหลมๆ ยื่นออกมาจากรูขุมขน |
สาเหตุ | เกิดจากการผลิตน้ำมันส่วนเกิน การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรีย เมื่อถูกออกซิไดซ์ ทำให้เกิดสีดำ | เกิดจากความผิดปกติของรูขุมขนที่มีการสร้างเซลล์ขนมากผิดปกติ รวมตัวกับไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว |
ตำแหน่งการเกิดสิว | พบในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น จมูก หน้าผาก คาง และบริเวณทีโซน | พบในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น จมูก คาง และหน้าผาก |
แนวทางการรักษา | ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี ผลัดเซลล์ผิว และใช้ยากลุ่มเรตินอลหรือเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ | ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี ผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ ควบคุมความมันบนใบหน้า หรือรักษาด้วยเลเซอร์ |
บริเวณที่มักเกิดสิวหัวดำ
อย่างที่อธิบายไปว่าสิวหัวดำมักเกิดขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก ง่ายต่อการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรีย จึงพบมากตามใบหน้า หลัง อก และไหล่
บนใบหน้า:
- จมูก: เป็นบริเวณที่พบสิวหัวดำได้บ่อยที่สุด เนื่องจากมีต่อมไขมันหนาแน่น
- หน้าผาก: เป็นบริเวณทีโซน ซึ่งมีต่อมไขมันมากกว่าบริเวณอื่นๆ บนใบหน้า
- คาง: เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่พบสิวหัวดำได้บ่อย เนื่องจากมีต่อมไขมันหนาแน่น
- แก้ม: สิวหัวดำอาจเกิดขึ้นบนแก้มได้เช่นกัน แต่พบได้น้อยกว่าบริเวณทีโซน
ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย:
- หลัง: เป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก จึงสามารถเกิดสิวหัวดำได้
- หน้าอก: บริเวณหน้าอกส่วนบนก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่อาจพบสิวหัวดำได้บ่อย
- ไหล่: สิวหัวดำสามารถเกิดขึ้นบนไหล่ได้เช่นกัน เนื่องจากมีการสะสมของแบคทีเรียมาก
วิธีป้องกันการเกิดสิวหัวดำที่คุณทำได้
สิวหัวดำไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะคุณสามารถป้องกันการเกิดสิวหัวดำได้ง่ายๆ ด้วยการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อลดโอกาสการเกิดสิวหัวดำ ดังนี้:
1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี:
- ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง: ล้างหน้าให้สะอาดทั้งตอนเช้าและเย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของคุณ รวมทั้งหลังออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมาก
- เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน: มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า “Non-comedogenic” หรือ “Oil-free”
- เช็ดเครื่องสำอางให้หมดจด: ก่อนล้างหน้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางเพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางออกให้หมดจด โดยไม่ทิ้งคราบหรือสิ่งอุดตันรูขุมขน
2. ผลัดเซลล์ผิว:
- ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว: ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (BHA) หรือ กรดไกลโคลิก (AHA) สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและลดการอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขน
3. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ: เพราะมือของเราอาจมีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้
- ไม่บีบหรือแกะสิว: เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและเป็นแผลเป็นได้
- ดูแลสุขภาพโดยรวม: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียด ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้นจากภายในและส่งผลลัพธ์ถึงภายนอก
สิวหัวดำรักษาอย่างไรถึงจะหาย?
สิวหัวดำเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อย เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยความมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อสัมผัสกับอากาศ ส่วนที่อุดตันจึงกลายเป็นสีดำ ไม่มีการปวดบวมรุนแรง ไม่อีกแสบ และสามารถรักษาได้หลายวิธี
- ใช้ยาละลายหัวสิว: ยากลุ่มนี้มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
- ทานยาหรือทายากลุ่มเรตินอยด์ (Retinoid): ในกรณีที่สิวหัวดำมีจำนวนมากหรือเป็นเรื้อรัง แพทย์อาจพิจารณาให้ทายาหรือรับประทานยาในกลุ่มเรตินอยด์ เพราะจะไปลดการทำงานของต่อมไขมันไม่ให้ผลิตน้ำมันมากจนเกินไป
- รักษาด้วย Intense Pulsed Light (IPL) หรือ Radio Frequency (RF): เพื่อไปลดการทำงานของต่อมไขมัน ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว
FAQ คำถามที่พบบ่อย
Q : สิวหัวดํา แก้ยังไง?
A : ใช้ยาละลายหัวสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide สามารถละลายหัวสิวและฆ่าเชื้อได้
Q : สิวหัวดํา บีบได้ไหม?
A : ไม่แนะนำให้บีบ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบได้ แนะนำให้ทายาละลายหัวสิวจะเห็นผลที่ดีกว่า
Q : เป็นสิวหัวดำ ไปหาหมอดีไหม?
A : ไม่จำเป็นต้องหาหมอ สามารถรักษาด้วยการทายาละลายหัวสิวได้ ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการซ้ำๆ หรือ มีสิวหัวดำเป็นจำนวนมากและมีอาการติดเชื้อร่วมด้วย
Q : สิวหัวดำ หายเองได้ไหม?
A : สิวหัวดำไม่สามารถหายเองได้ ถ้าทิ้งไว้จะทำให้รูขุมขนกว้าง หรือเกิดการติดเชื้อเป็นสิวอักเสบได้
Q : สิวหัวดำบีบไม่ออก เกิดจากอะไร?
A : สิวหัวดำบีบไม่ออกอาจเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ
- สิวหัวดำยังไม่ “สุก” เต็มที่ : สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยความมันและเซลล์ผิวที่สุกเต็มที่ส่วนที่อุดตันจะยังแข็งและฝังลึก ทำให้บีบไม่ออก
- รูขุมขนแคบ : บางคนมีรูขุมขนที่แคบตามธรรมชาติ ทำให้สิวหัวดำที่อุดตันอยู่ข้างในถูกบีบออกได้ยากมากกว่าคนทั่วไป
- การอักเสบ : ถ้าสิวหัวดำเกิดการอักเสบ จะทำให้รูขุมขนบวมและทำให้สิวหัวดำยากที่จะถูกดันออกมา
สิวหัวดำ ไม่น่ากังวล รักษาได้ที่ The One Clinic
สิวหัวดำ สิวเสี้ยน สิวอักเสบ หรือไม่ว่าสิวประเภทไหนๆ หมอหนึ่งก็รักษาได้ค่ะ สามารถเข้ามาปรึกษาที่ The One Clinic คลินิกที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังย่านห้วยขวางได้ทุกวัน เรามีแพทย์ที่มีประสบการณ์ เครื่องมือที่ทันสมัย และออกแบบการรักษาให้คุณแบบรายบุคคลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
สำหรับผู้ที่สนใจนัดหมาย หรือ สอบถามโปรโมชั่นประจำเดือนนี้ โทร. 093-583-0921 หรือ แอดไลน์ @theoneclinic ได้เลยค่ะ